การรู้คำศัพท์และวิธีใช้ วัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษ ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยแม่นเรื่องวัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้รวบรวมคำศัพท์ พร้อมวิธีการใช้ มาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆ แล้ว เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย
คำศัพท์วันทั้ง 7 ในภาษาอังกฤษ
วัน | ภาษาอังกฤษ | ตัวย่อ |
---|---|---|
วันอาทิตย์ | Sunday | Sun |
วันจันทร์ | Monday | Mon |
วันอังคาร | Tuesday | Tue |
วันพุธ | Wednesday | Wed |
วันพฤหัสบดี | Thursday | Thu |
วันศุกร์ | Friday | Fri |
วันเสาร์ | Saturday | Sat |
คำศัพท์เดือนทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษ
เดือนที่ | เดือน | ภาษาอังกฤษ | ตัวย่อ |
---|---|---|---|
1 | มกราคม | January | Jan |
2 | กุมภาพันธ์ | February | Feb |
3 | มีนาคม | March | Mar |
4 | เมษายน | April | Apr |
5 | พฤษภาคม | May | May |
6 | มิถุนายน | June | Jun |
7 | กรกฎาคม | July | Jul |
8 | สิงหาคม | August | Aug |
9 | กันยายน | September | Sept |
10 | ตุลาคม | October | Oct |
11 | พฤศจิกายน | November | Nov |
12 | ธันวาคม | December | Dec |
การใช้ปีในภาษาอังกฤษ
เราจะใช้ปี ค.ศ. (คริสต์ศักราช) เป็นมาตรฐานสากล
ส่วนปี พ.ศ. (พุทธศักราช) จะใช้กันแค่ในบางประเทศ เช่น ไทย พม่า ศรีลังกา
ด้วยเหตุนี้ เวลาเราติดต่อกับชาวต่างชาติ หรือกรอกข้อมูลลงเอกสารที่เป็นสากล เราจึงควรใช้ปี ค.ศ. แทน พ.ศ. (วิธีแปลงปี พ.ศ. ให้เป็น ค.ศ. ทำได้ด้วยการนำปี พ.ศ. มาลบ 543 เช่น ปี พ.ศ. 2563 – 543 = ปี ค.ศ. 2020)
สำหรับวิธีอ่านปีในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไป เราจะอ่านทีละสองหลัก
1819 อ่านว่า eighteen nineteen
1961 อ่านว่า nineteen sixty-one
ถ้าเป็นปีที่ลงท้ายด้วยเลข 01-09 เราจะนิยมอ่านเลข 0 ว่า oh (โอ)
1602 อ่านว่า sixteen oh two
1906 อ่านว่า nineteen oh six
สำหรับปีก่อน 2000 ที่สองตัวท้ายเป็น 0 เราจะอ่านสองหลักแรกแล้วต่อท้ายด้วย hundred
1400 อ่านว่า fourteen hundred
1900 อ่านว่า nineteen hundred
ถ้าเป็นปี 2000 เราจะอ่านเหมือนเลขปกติ
2000 อ่านว่า two thousand
ถ้าเป็นปีระหว่าง 2001-2010 เราก็มักจะอ่านเหมือนเลขปกติเช่นกัน
2001 อ่านว่า two thousand and one
2010 อ่านว่า two thousand and ten
แต่สำหรับปีถัดๆ มา หลังปี 2010 เราจะสามารถอ่านได้ทั้ง 2 แบบ
2012 อ่านว่า twenty twelve หรือ two thousand and twelve
2021 อ่านว่า twenty twenty-one หรือ two thousand and twenty-one
การใช้วันที่ในภาษาอังกฤษ
วันที่ในภาษาอังกฤษไม่ได้อ่านว่า one, two, three, … เหมือนจำนวนตัวเลขทั่วๆ ไป แต่จะใช้ first, second, third, … เหมือนการระบุลำดับ (ordinal number) ตามรายละเอียดในตาราง
วันที่ | ภาษาอังกฤษ |
---|---|
1 | First |
2 | Second |
3 | Third |
4 | Fourth |
5 | Fifth |
6 | Sixth |
7 | Seventh |
8 | Eighth |
9 | Ninth |
10 | Tenth |
11 | Eleventh |
12 | Twelfth |
13 | Thirteenth |
14 | Fourteenth |
15 | Fifteenth |
16 | Sixteenth |
17 | Seventeenth |
18 | Eighteenth |
19 | Nineteenth |
20 | Twentieth |
21 | Twenty-first |
22 | Twenty-second |
23 | Twenty-third |
24 | Twenty-fourth |
25 | Twenty-fifth |
26 | Twenty-sixth |
27 | Twenty-seventh |
28 | Twenty-eighth |
29 | Twenty-ninth |
30 | Thirtieth |
31 | Thirty-first |
การเขียนวัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษ
ถ้าเป็น American English เราจะเขียนเดือนขึ้นก่อนเป็น month-day-year โดยจะใช้คอมม่าคั่นระหว่างวันที่และปี เช่น
Ann was born on April 21, 2003.
(อ่านว่า April twenty-first, two thousand and three)
Ann was born on Monday, April 21, 2003.
(อ่านว่า Monday, April twenty-first, two thousand and three)
Ann’s birthday is April 21.
(อ่านว่า April twenty-first)
เวลาเขียนวันที่ใน American English เราจะไม่เขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ (เช่น 21st, 22nd, 25th) แต่เวลาอ่าน จะอ่านเหมือนเขียน
ถ้าเป็น British English เรามักจะเขียนวันที่ขึ้นก่อนเป็น day-month-year เช่น
Ann was born on 21 April 2003.
(อ่านว่า the twenty-first of April two-thousand and three)
Ann was born on Monday, 21 April 2003.
(อ่านว่า Monday, the twenty-first of April two-thousand and three)
Ann’s birthday is 21 April.
(อ่านว่า the twenty-first of April)
ใน British English เมื่อก่อนจะนิยมเขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ (เช่น 21st, 22nd, 25th) แต่ในระยะหลัง จะนิยมเขียนกันน้อยลง ซึ่ง style guide ส่วนใหญ่ อย่างเช่น University of Oxford Style Guide, BBC News Style Guide และ The Government Digital Service Style Guide ต่างก็ระบุว่าไม่จำเป็นต้องใส่แล้ว
สำหรับ British English แม้จะเขียนหรือไม่เขียน st, nd, rd, th ต่อท้ายตัวเลขวันที่ แต่เวลาอ่าน เราจะอ่านเหมือนเขียน และจะต้องใช้ the และ of กำกับด้วย เช่น 21 April 2003 จะอ่านว่า the twenty-first of April two thousand and three
ตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับวัน เดือน ปี
What day is it today?
วันนี้วันอะไร
(คำตอบที่ได้อาจเป็นวันในสัปดาห์ เช่น วันจันทร์ วันอังคาร หรือวันพิเศษ อย่างวันสงกรานต์ วันคริสต์มาส ก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริบทที่ถาม)
What is the date today?
วันนี้วันที่เท่าไหร่
When is your birthday?
วันเกิดของคุณคือวันไหน
When is Halloween day?
วันฮาโลวีนคือวันไหน
What month is it now?
เดือนนี้เดือนอะไร
Which month does your school begin?
โรงเรียนเปิดเทอมเดือนไหน
What year were you born?
คุณเกิดปีไหน
What year did you graduate from college?
คุณจบจากมหาวิทยาลัยในปีไหน
What year did you start working here?
คุณเริ่มทำงานที่นี่ในปีไหน
คำถามที่พบบ่อย
1. วันแรกของสัปดาห์คือวันอาทิตย์หรือวันจันทร์
คำตอบของคำถามนี้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละประเทศ
ถ้ายึดตามหลักมาตรฐานสากล ISO 8601 วันจันทร์จะถือเป็นวันแรกของสัปดาห์ ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปและบางประเทศในเอเชีย ก็จะใช้ปฏิทินที่เริ่มด้วยวันจันทร์
อย่างไรก็ตาม หลายๆ ประเทศ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฯลฯ จะถือวันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์ และจะใช้ปฏิทินที่เริ่มด้วยวันอาทิตย์
สำหรับไทย ปฏิทินที่เราใช้ก็มักจะเริ่มด้วยวันอาทิตย์ แต่ก็มีบางคนที่ถือวันจันทร์เป็นวันแรก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเห็นและความเคยชินของแต่ละคนนั่นเอง
2. ถ้าเราเห็นตัวเลขวันที่ 4/5/2020 เราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเลขนี้หมายถึง วันที่ 4 เดือน 5 ปี 2020 หรือวันที่ 5 เดือน 4 ปี 2020
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่ควรแสดงข้อมูลวันเดือนปีเป็นตัวเลขล้วน โดยเฉพาะในการสื่อสารระดับสากล เพราะอาจก่อให้เกิดความสับสน
ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะแสดงข้อมูลตามลำดับ เดือน-วัน-ปี แต่ประเทศอังกฤษและประเทศอื่นส่วนใหญ่ รวมถึงไทย กลับนิยมใช้ลำดับ วัน-เดือน-ปี มากกว่า
วิธีหนึ่งที่อาจช่วยให้เราแยกได้ก็คือ ให้เราสังเกตว่าผู้เขียน หรือองค์กรของผู้เขียนมาจากชาติใด
อย่างเช่น ถ้าตัวเลขนี้มาจากองค์กรในสหรัฐอเมริกา ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นวันที่ 5 เดือน 4 ปี 2020 แต่ถ้ามาจากองค์กรในประเทศอังกฤษ ตัวเลขนี้ก็น่าจะหมายถึงวันที่ 4 เดือน 5 ปี 2020 นั่นเอง
จบแล้วนะครับสำหรับการใช้วันเดือนปีในภาษาอังกฤษ ชิววี่หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ สื่อสารข้อมูลวันเดือนปีด้วยภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากขึ้นนะครับ
อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time