Relative pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน เพราะมีรายละเอียดเยอะ และสามารถใช้ได้หลากหลายแบบ
สำหรับคนที่ยังไม่ค่อยแม่นเรื่อง relative pronoun ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้อ่านกันแบบง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย
Relative pronoun คืออะไร
Relative pronoun คือคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ ซึ่งได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น
The student who won the contest is my son.
นักเรียนคนที่ชนะการประกวดเป็นลูกชายของฉัน
จากประโยคตัวอย่าง
- ถ้าเขียนแยกกันจะได้เป็น 2 ประโยคคือ The student is my son. He won the contest.
- Relative pronoun ซึ่งในที่นี้ก็คือ who ทำหน้าที่เชื่อม 2 ประโยคนี้เข้าด้วยกัน โดยจะนำส่วน “won the contest” เข้าไปขยายคำว่า student ในประโยคแรก
- เราจะเรียก “who won the contest” ว่า relative clause โดยจะเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ student ทำให้เรารู้ว่ากำลังพูดถึงนักเรียนคนไหน
(Relative clause คือประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมักจะขึ้นต้นด้วย relative pronoun)
ภาพรวม relative pronoun
Relative pronoun | รายละเอียดการใช้ | ตัวอย่างประโยค |
---|---|---|
Who | ใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย) | Neil Armstrong was the first person who walked on the moon. นีล อาร์มสตรองเป็นบุคคลแรกที่เดินบนดวงจันทร์ |
Whom | ใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ) | This is Anne, whom you met at the seminar last week. นี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อน |
Whose | ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ) | I met a woman whose name is Sara. ฉันได้เจอผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งชื่อของเธอคือซาร่า |
Which | ใช้กับสัตว์และสิ่งของ | I need help with this homework, which is due tomorrow. ฉันต้องการความช่วยเหลือกับการบ้านอันนี้ มันต้องส่งพรุ่งนี้แล้ว |
That | ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ) | This is the same bag that my mom has. นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลย |
Where | ใช้กับสถานที่ | I know a store where we can buy the phone cheaper. ฉันรู้จักร้านที่เราสามารถซื้อโทรศัพท์ได้ถูกกว่า |
When | ใช้กับเวลา | There isn’t a day when I don’t think about her. มันไม่มีซักวันเลยที่ฉันไม่ได้นึกถึงเธอ |
Why | ใช้กับเหตุผล | I don’t know why he didn’t come. ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่มา |
การละ relative pronoun | เราสามารถละ relative pronoun ได้ เมื่อ relative pronoun แทนสิ่งที่เป็นกรรม | The person (who/whom/that) I met yesterday is Tim. คนที่ฉันเจอเมื่อวานคือทิม |
การใช้คอมม่า
การใช้คอมม่ากับ relative clause เราจะต้องรู้ก่อนว่า relative clause นั้นจำเป็นต่อประโยคหรือไม่
- ถ้า relative clause เป็นส่วนที่จำเป็นสำหรับประโยค (เรียกว่า defining clause หรือ restrictive clause) เราจะไม่ใช้คอมม่า
- ถ้า relative clause เป็นส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับประโยค (เรียกว่า non-defining clause) เราจะใช้คอมม่า
ตัวอย่าง defining clause (จำเป็น, ไม่ใช้คอมม่า)
This is the cat that I bought.
นี่คือแมวที่ฉันได้ซื้อมา
(ถ้าตัด “that I bought” ทิ้ง จะเหลือความหมายแค่ว่า “นี่คือแมว” ซึ่งจะเสียใจความสำคัญไป เลยถือว่าจำเป็น)
ตัวอย่าง non-defining clause (ไม่จำเป็น, ใช้คอมม่า)
John, who is my friend, is a chef at that restaurant.
จอห์น คนที่เป็นเพื่อนฉัน เป็นเชฟอยู่ที่ร้านอาหารร้านนั้น
(“who is my friend” เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจอห์น แต่ถ้าตัดออก ใจความสำคัญของประโยคก็ยังคงอยู่ เลยถือว่าไม่จำเป็น)
Relative pronoun ทุกตัวสามารถใช้ได้กับทั้ง defining และ non-defining clause ยกเว้น that กับ การละ relative pronoun ที่จะต้องใช้กับ defining clause (จำเป็น, ไม่ใช้คอมม่า) เท่านั้น
พูดอีกแบบก็คือ เราจะไม่ใช้คอมม่า เมื่อใช้ relative pronoun เป็น that หรือเมื่อเราละ relative pronoun
หลักการใช้ relative pronoun
เรามาดูหลักการใช้ relative pronoun แต่ละตัว พร้อมกับตัวอย่างประโยคกัน
1. Who
ใช้ who แทนคนและสัตว์เลี้ยง
หลักๆแล้ว เราจะใช้ who กับคน แต่ก็อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย
I don’t like people who slam doors.
ฉันไม่ชอบคนที่ปิดประตูแรง
(who แทน people ซึ่งแปลว่า “ผู้คน”)
That is the cat who lives here.
นั่นคือแมวที่อาศัยอยู่ที่นี่
(who แทน cat ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยง)
แต่เราจะไม่ใช้ who แทนสิ่งของ
This is the book that inspired me to be a teacher.
นี่คือหนังสือที่ทำให้ฉันอยากเป็นครู
(เราจะไม่ใช้ who กับสิ่งของ ซึ่งในที่นี้คือ book แต่เราจะใช้ which หรือ that แทน)
ใช้ who เป็นได้ทั้งประธานและกรรม
เราสามารถใช้ who เป็นได้ทั้งประธานและกรรม (สมัยก่อน เราจะใช้ who เป็นประธาน และใช้ whom เป็นกรรม แต่ในยุคหลังๆ ได้มีการหยวนให้ใช้ who เป็นกรรมได้ โดยเฉพาะในภาษาพูดหรือในภาษาที่ไม่เป็นทางการ)
The woman who called me yesterday is a nurse.
ผู้หญิงที่โทรหาฉันเมื่อวานเป็นพยาบาล
(who เป็นประธาน ซึ่งก็คือผู้หญิงที่โทรหาฉัน)
The woman who I called yesterday is a nurse.
ผู้หญิงที่ฉันโทรหาเมื่อวานเป็นพยาบาล
(who เป็นกรรม ซึ่งก็คือผู้หญิงที่ฉันโทรหา)
2. Whom
ใช้ whom แทนคนที่เป็นกรรม
เราจะใช้ whom แทนคนที่เป็นกรรมในประโยค โดยเฉพาะการใช้ในภาษาเขียน และในภาษาที่เป็นทางการ (ในภาษาพูดและภาษาที่ไม่เป็นทางการ เราจะนิยมใช้ who มากกว่า)
He once had a lover whom he loved so much.
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีคนรักที่เขารักมาก
3. Whose
ใช้ whose แสดงความเป็นเจ้าของ แทนคน สัตว์ สิ่งของ
คำว่า whose เป็นคำที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ สามารถใช้ได้กับทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ อย่างเช่น
I talked to a parent whose child is very ill.
ฉันได้คุยกับผู้ปกครอง ซึ่งลูกของเค้านั้นป่วยมาก
We adopted a dog whose owner had passed away.
พวกเราได้รับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่ง ซึ่งเจ้าของของมันได้เสียชีวิตไปแล้ว
The house whose roof is red belongs to me.
บ้านหลังที่มีหลังคาสีแดงนั้นเป็นของฉัน
4. Which
ใช้ which แทนสัตว์และสิ่งของ
เราจะใช้ which แทนสัตว์หรือสิ่งของ โดยจะใช้เป็นได้ทั้งประธานและกรรม
The elephant, which is very big, was seen near the village.
ช้างซึ่งตัวใหญ่มากได้ถูกพบเห็นอยู่ใกล้ๆหมู่บ้าน
She loves the cake which I bought.
เธอชอบเค้กที่ฉันซื้อมา
ใช้ which แทนทั้งประโยค
นอกจากการใช้ relative pronoun แทนคำนาม/คำสรรพนามแล้ว เรายังสามารถใช้แทนทั้งประโยคได้ด้วย โดยมักจะใช้ which
There is going to be a new election soon, which is good.
เดี๋ยวจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าดี
(which ในที่นี้แทนทั้งประโยค “There’s going to be a new election soon”)
5. That
ใช้ that แทนคน สัตว์ สิ่งของ
เราสามารถใช้ that แทนได้ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ทั้งที่เป็นประธานและเป็นกรรม แต่จะต้องใช้กับ defining clause เท่านั้น (จำเป็น, ไม่มีคอมม่า)
ถ้าเทียบกันแล้ว การใช้ that จะฟังดูเป็นทางการน้อยกว่า who, whom และ which
The boy that talked to me is Jim.
เด็กผู้ชายที่พูดกับฉันคือจิม
I bought a new cat that is very cute.
ฉันซื้อแมวใหม่มา ซึ่งน่ารักมาก
Everyone loves the pizza that I made.
ทุกคนชอบพิซซ่าที่ฉันทำ
6. Where
ใช้ where แทนสถานที่
เราจะใช้ where แทนสถานที่ โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ
The place where my aunt lives is beautiful.
ที่ที่ป้าฉันอยู่นั้นสวยนะ
7. When
ใช้ when แทนเวลา
เราจะใช้ when แทนเวลา โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ
There will be a time when we must choose between what is easy and what is right.
มันจะมีเวลาที่เราต้องเลือกระหว่างสิ่งที่ง่ายกับสิ่งที่ถูกต้อง
8. Why
ใช้ why แทนเหตุผล
เราจะใช้ why แทนเหตุผล โดยมักจะใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ
Do you know the reason why he was late?
คุณรู้เหตุผลที่เขามาสายมั้ย
9. การละ relative pronoun
ละ relative pronoun ได้เมื่อแทนกรรม
เมื่อใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ เรามักจะละ relative pronoun แต่จะทำได้เฉพาะเมื่อ relative pronoun เป็นกรรม และ relative clause เป็น defining clause (จำเป็น, ไม่มีคอมม่า) เท่านั้น
English is the language (which/that) I love.
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ฉันรัก
การใช้ preposition
การใช้ preposition (เช่น in, on, at, to, with) ใน relative clause ถ้าเป็น whose กับ which เราสามารถเอา preposition มาไว้หน้า relative pronoun หรือไว้ข้างหลังตามปกติก็ได้ เมื่อ relative pronoun เป็นกรรม อย่างเช่น
The room which I sleep in has two windows. (preposition อยู่ในตำแหน่งปกติ)
The room in which I sleep has two windows. (preposition อยู่ข้างหน้า)
ห้องที่ฉันนอนมีหน้าต่างสองบาน
การนำ preposition มาไว้ข้างหน้า relative pronoun จะทำให้ภาษาฟังดูเป็นทางการมากกว่าการเอาไว้ข้างหลัง การใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เราจึงมักจะเอาไว้ข้างหลังมากกว่า
แต่ถ้าเป็น whom เราจะต้องเอา preposition มาไว้ข้างหน้าเท่านั้น
There was only one boy to whom she spoke.
มีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอได้พูดด้วย
สำหรับ relative pronoun ตัวอื่นๆอย่าง who, that, where, when, why เราจะใช้ preposition ในตำแหน่งข้างหลังตามปกติ
There was only one boy who she spoke to.
มีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอได้พูดด้วย
สรุปเรื่อง relative pronoun
- Relative pronoun ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
- เราจะใช้ relative pronoun ในการเชื่อมประโยคหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ
- Relative clause คือประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมักจะขึ้นต้นด้วย relative pronoun
- ถ้าตัด relative clause ทิ้ง แล้วประโยคหลักมีใจความสำคัญเปลี่ยนไป (จำเป็น) เราจะไม่ใช้คอมม่าคั่นระหว่าง relative clause กับประโยคหลัก (I don’t like people who slam doors.)
- ถ้าตัด relative clause ทิ้ง แล้วประโยคหลักไม่ได้มีใจความสำคัญเปลี่ยนไป (ไม่จำเป็น) เราจะใช้คอมม่าคั่นระหว่าง relative clause กับประโยคหลัก (My father, who lives in Bangkok, is an engineer.)
- Relative pronoun ส่วนใหญ่จะเป็นได้ทั้งประธานและกรรม ยกเว้น whom ที่จะเป็นได้แค่กรรมเท่านั้น
- การใช้ relative pronoun เป็นกรรม เราสามารถละ relative pronoun ได้ เช่น The person (who/whom/that) I met yesterday is Tim.
- การใช้ relative pronoun แทนสิ่งต่างๆ จะมีข้อกำหนดว่าเราจะใช้ตัวไหนแทนสิ่งใดได้บ้าง
- คน – who, whom (กรรม), whose, that
- สัตว์ – who (สัตว์เลี้ยง), whose, which, that
- สิ่งของ, สิ่งไม่มีชีวิต, สิ่งที่เป็นนามธรรม – whose, which, that
- Where, when, why เป็น relative pronoun ที่มีขอบเขตการใช้ค่อนข้างเฉพาะ โดยเราจะใช้ where แทนสถานที่ ใช้ when แทนเวลา และใช้ why แทนเหตุผล
- เมื่อ relative pronoun เป็นกรรม การใช้ preposition ใน relative clause กับ whose และ which เราสามารถนำ preposition มาไว้ข้างหน้า whose กับ which ได้ แต่มักจะทำเฉพาะในการเขียนที่เป็นทางการ
- เมื่อใช้ whom การใช้ preposition ใน relative clause เราจะนำ preposition มาไว้ข้างหน้า whom
จบแล้วนะครับกับนิยามและหลักการใช้ relative pronoun ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะ
อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time