Pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่สำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยและเป็นพื้นฐานในการเรียนแกรมม่าเรื่องอื่นๆ
ในบทความนี้ ชิววี่จะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun ว่ามันคืออะไร มีการใช้อย่างไร และมีตัวอย่างประโยคอะไรบ้าง ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย
Pronoun คืออะไร
Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น
John is my friend. He lives in the same town with me.
จอห์นเป็นเพื่อนฉัน เขาอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันกับฉัน
สังเกตว่า เราจะไม่ใช้ John ซ้ำในประโยคที่ 2 แต่จะเปลี่ยนไปใช้ he แทน คำว่า he ในที่นี้ก็คือ pronoun ซึ่งเป็นคำที่ใช้แทนคำนาม John นั่นเอง
ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน
ตัวอย่างคำ pronoun มีอะไรบ้าง
Pronoun พื้นฐาน 7 ตัว
Pronoun พื้นฐานจะมีอยู่ 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค
Pronoun ทำหน้าที่ เป็นประธาน | Pronoun ทำหน้าที่ เป็นกรรม | Pronoun แสดงความเป็นเจ้าของ | Pronoun สะท้อน |
---|---|---|---|
I | Me | Mine | Myself |
You | You | Yours | Yourself/Yourselves |
He | Him | His | Himself |
She | Her | Hers | Herself |
It | It | Its | Itself |
We | Us | Ours | Ourselves |
They | Them | Theirs | Themselves |
สำหรับ pronoun พื้นฐาน 7 ตัวนี้ ถ้าใช้เป็นประธานในประโยค เราจะต้องใช้รูปประธาน ซึ่งก็คือ I, you, he, she, it, we, they
She called me yesterday.
เธอโทรหาฉันเมื่อวาน
ถ้าใช้เป็นกรรม (ผู้ถูกกระทำ) ในประโยค เราจะต้องใช้รูปกรรม ซึ่งก็คือ me, you, him, her, it, us, them
I called her yesterday.
ฉันโทรหาเธอเมื่อวาน
ถ้าใช้บอกความเป็นเจ้าของ เราจะต้องใช้รูปแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs
This bag is hers.
กระเป๋าใบนี้เป็นของเธอ
ถ้าประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน การใช้ pronoun เป็นกรรม เราจะต้องใช้รูปสะท้อน ซึ่งก็คือ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves
She can take care of herself.
เธอสามารถดูแลตัวเองได้
Pronoun ชนิดอื่นๆ
นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น
Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose
Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none
Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why
Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
คำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2, 3
เราสามารถแบ่งประเภท pronoun เป็นสรรพนามบุรุษต่างๆได้ 3 ประเภท คือ
สรรพนามบุรุษที่ 1 (first-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด อย่างเช่นคำว่า
I – ฉัน
We – พวกเรา
สรรพนามบุรุษที่ 2 (second-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้ฟัง อย่างเช่นคำว่า
You – คุณ, พวกคุณ
สรรพนามบุรุษที่ 3 (third-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลอื่น (ผู้ที่อยู่นอกวงสนทนา) อย่างเช่นคำว่า
He – เขา
She – เธอ
It – มัน
They – พวกเขา
คำบุรุษสรรพนามกับแกรมม่า
ในภาษาอังกฤษ การใช้คำสรรพนามบุรุษที่ 3 ที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนหนึ่งหน่วย) อย่างเช่น he, she, it เราจะต้องใช้คำกริยารูปเอกพจน์ เมื่อใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น is, does, has, คำกริยาที่เติม s/es)
She eats spicy food regularly.
เธอกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ
It is cute.
มันน่ารักจัง
แต่ถ้าเป็นคำสรรพนามพหูพจน์ หรือคำสรรพนามบุรุษอื่น เราจะต้องใช้คำกริยารูปพหูพจน์ (เช่น are, do, have, คำกริยาที่ไม่เติม s/es)
I eat spicy food regularly.
ฉันกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ
You are cute.
คุณน่ารักจัง
ตัวอย่าง pronoun ในประโยค
เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างประโยคการใช้ pronoun พื้นฐานทั้ง 7 ตัวกัน
1. I
I แปลว่า “ฉัน, ผม, ดิฉัน” ใช้เป็นประธานในประโยค
I want to be a lawyer.
ฉันอยากเป็นทนาย
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ me
My mom want me to be a lawyer.
แม่อยากให้ฉันเป็นทนาย
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของฉัน” เราจะใช้ mine
This pen is mine.
ปากกาด้ามนี้เป็นของฉัน
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “ฉัน” เราจะใช้กรรมเป็น myself
I believe in myself.
ฉันเชื่อในตัวฉันเอง
2. You
You แปลว่า “คุณ, พวกคุณ” ใช้เป็นประธานในประโยค
You are a good student.
คุณเป็นนักเรียนที่ดี
You are good students.
พวกคุณเป็นนักเรียนที่ดี
การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า you มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน
I don’t want you to be sad.
ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของคุณ/พวกคุณ” เราจะใช้ yours
My umbrella is broken. Can I borrow yours?
ร่มฉันพัง ขอฉันยืมของคุณได้มั้ย
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “คุณ/พวกคุณ” เราจะใช้กรรมเป็น yourself/yourselves
You should be proud of yourself.
คุณควรภูมิใจในตัวเอง
3. He
He แปลว่า “เขา” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศชาย) ใช้เป็นประธานในประโยค
Tim lives together with me. He is my roommate.
ทิมอาศัยอยู่ด้วยกันกับฉัน เขาเป็นรูมเมทของฉัน
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ him
Tim is my roommate. I live together with him.
ทิมเป็นรูมเมทของฉัน ฉันอาศัยอยู่ด้วยกันกับเขา
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเขา” เราจะใช้ his
The black bag is mine, and the green one is his.
กระเป๋าใบสีดำเป็นของฉัน และใบสีเขียวเป็นของเขา
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เขา” เราจะใช้กรรมเป็น himself
He called himself a clever man.
เขาเรียกตัวเองว่าคนฉลาด
4. She
She แปลว่า “เธอ” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิง) ใช้เป็นประธานในประโยค
She told me her secret.
เธอบอกความลับของเธอแก่ฉัน
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ her
I told her my secret.
ฉันบอกความลับของฉันแก่เธอ
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเธอ” เราจะใช้ hers
This book isn’t hers.
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของเธอ
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เธอ” เราจะใช้กรรมเป็น herself
She looks at herself in the mirror every morning.
เธอมองตัวเองในกระจกทุกเช้า
5. It
It แปลว่า “มัน” (ใช้กับสัตว์หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต) ใช้เป็นประธานในประโยค
This book is amazing. It was written by my uncle.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก มันถูกเขียนโดยคุณลุงของฉันเอง
การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า it มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน
This book is amazing. I just bought it yesterday.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก ฉันเพิ่งซื้อมันมาเมื่อวาน
คำว่า it แม้จะมีรูปสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของเป็น its แต่เราจะไม่นิยมใช้กัน ถ้าจะใช้ ให้เราเลี่ยงไปใช้คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของแทน ซึ่งจะเขียนว่า its เหมือนกัน แต่เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง
This milk is past its expiration date.
นมอันนี้เลยวันหมดอายุแล้ว
(Its ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง เราจะไม่นิยมใช้คำว่า its เป็นคำสรรพนาม)
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “มัน” เราจะใช้กรรมเป็น itself
The cat is licking itself.
แมวกำลังเลียตัวมันเอง
6. We
We แปลว่า “พวกเรา” ใช้เป็นประธานในประโยค
We have been married for nearly three years.
พวกเราแต่งงานกันเกือบ 3 ปีแล้ว
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ us
The teacher told us to be quiet.
ครูบอกให้พวกเราเงียบ
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเรา” เราจะใช้ ours
This land is ours.
ดินแดนแห่งนี้เป็นของพวกเรา
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น ourselves
We have rights to protect ourselves.
พวกเรามีสิทธิที่จะป้องกันตัวเอง
7. They
They แปลว่า “พวกเขา” ใช้เป็นประธานในประโยค
They went on a trip to France last week.
พวกเขาไปเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อน
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ them
I had lunch with them yesterday.
ฉันกินข้าวเที่ยงกับพวกเขาเมื่อวาน
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเขา” เราจะใช้ theirs
This land isn’t theirs.
ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่ของพวกเขา
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น themselves
Many children have to look after themselves.
เด็กหลายๆคนต้องดูแลตัวเอง
เป็นยังไงบ้างครับกับ pronoun ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้จักและพอจะใช้ pronoun กันเป็นแล้ว ถ้ายังไงก็อย่าลืมหมั่นทบทวนและฝึกใช้บ่อยๆด้วยนะ
อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time