Present perfect continuous tense (เรียกอีกชื่อว่า present perfect progressive tense) ถือเป็น tense ที่ใช้ไม่บ่อยเท่าไรนัก แต่ก็ควรรู้หลักการไว้ เพื่อที่จะได้เข้าใจประโยคภาษาอังกฤษได้ครบทุกรูปแบบ
สำหรับใครที่อยากเข้าใจเรื่อง present perfect continuous tense ให้ดีขึ้น ว่าคืออะไร ใช้ยังไง และใช้ตอนไหน ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหา มาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆ แล้ว เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย
Present perfect continuous tense คืออะไร
Present perfect continuous tense คือรูปกริยาที่ใช้กับสิ่งที่เกิดในอดีต และยังดำเนินต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน โดยจะใช้โครงสร้าง “has/have + been + กริยา -ing” ตัวอย่างเช่น
She has been waiting for hours.
เธอรอมาหลายชั่วโมงแล้ว
(เริ่มรอตั้งแต่อดีต จนตอนนี้ก็ยังรออยู่)
I have been reading books since midnight.
ฉันอ่านหนังสือตั้งแต่เที่ยงคืน
(เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่อดีต จนตอนนี้ก็ยังอ่านอยู่)
นอกจากจะใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่แล้ว present perfect continuous tense ยังสามารถใช้กับสิ่งที่เพิ่งเสร็จสิ้นได้ด้วย ตัวอย่างประโยคเช่น
It has been raining, so the grass is wet.
ฝนเพิ่งได้ตกไป หญ้าก็เลยเปียก
I have been eating a lot lately.
ฉันกินเยอะมากในช่วงที่ผ่านมา
โครงสร้าง present perfect continuous tense
Present perfect continuous tense มีโครงสร้างคือ “has/have + been + กริยา -ing” ซึ่งการเลือกใช้ has หรือ have จะต้องอิงตามประธาน ดังนี้
- คำว่า has ใช้กับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 เช่น he, she, it, girl, bird, chair
- คำว่า have ใช้กับ I, you และประธานพหูพจน์ เช่น we, they, girls, birds, chairs
He has been working since morning.
เขาทำงานตั้งแต่ตอนเช้า
They have been working since morning.
พวกเขาทำงานตั้งแต่ตอนเช้า
ทั้งนี้ ในภาษาอังกฤษ ประโยคต่างชนิดกัน ก็จะมีโครงสร้างที่ต่างกัน ซึ่งสำหรับ present perfect continuous tense นั้น ก็จะมีโครงสร้างสำหรับประโยคแต่ละชนิดตามนี้
ทบทวนความรู้
Subject แปลว่า ประธาน
Verb แปลว่า คำกริยา
Object แปลว่า กรรม หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่นในประโยค I have been missing you all day. (ฉันคิดถึงคุณมาทั้งวันเลย)
Complement แปลว่า ส่วนเติมเต็ม ซึ่งก็คือคำที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน เวลาใช้มักจะตามหลัง linking verb (เช่น is, am, are, feel, seem, become) เช่นในประโยค You have been being a good student today. (วันนี้คุณเป็นนักเรียนที่ดีมาก)
ประโยคบอกเล่า
การใช้ present perfect continuous tense ในประโยคบอกเล่า จะมีโครงสร้างและตัวอย่างประโยคดังนี้
โครงสร้าง
Subject + has/have + been + verb -ing + (object/complement)
ตัวอย่างประโยคเช่น
Tim has been sleeping since noon.
ทิมหลับมาตั้งแต่ตอนเที่ยง
My friends have been playing badminton for two hours.
เพื่อนๆ ของฉันเล่นแบตมินตันมานาน 2 ชั่วโมงแล้ว
ประโยคปฏิเสธ
การใช้ present perfect continuous tense ในประโยคปฏิเสธ จะมีโครงสร้างและตัวอย่างประโยคดังนี้
โครงสร้าง
Subject + has/have + not + been + verb -ing + (object/complement)
(เราสามารถเขียนย่อ has not เป็น hasn’t และ have not เป็น haven’t ได้)
ตัวอย่างประโยคเช่น
Tim hasn’t been sleeping well lately.
ช่วงที่ผ่านมา ทิมนอนหลับไม่ค่อยดี
We haven’t been playing badminton for years.
พวกเราไม่ได้เล่นแบตมิตตันมาหลายปีแล้ว
ประโยคคำถาม
การใช้ present perfect continuous tense ในประโยคคำถามจำพวก yes-no question (คำถามที่ต้องตอบว่าใช่หรือไม่ใช่) จะมีโครงสร้างและตัวอย่างประโยคดังนี้
โครงสร้าง
Has/Have + subject + been + verb -ing + (object/complement)?
ตัวอย่างประโยคเช่น
Has he been sleeping well lately?
ช่วงที่ผ่านมานี้ เขานอนหลับดีหรือเปล่า
Have they been playing badminton for three hours?
พวกเขาเล่นแบตมินตันมา 3 ชั่วโมงแล้วหรอ
หลักการใช้ present perfect continuous tense
การใช้ present perfect continuous tense จะมีประเด็นหลักๆ ที่ควรรู้ ได้แก่
Present perfect continuous tense ใช้ตอนไหน
เราจะใช้ present perfect continuous tense เมื่อ
1. กล่าวถึงสิ่งที่เกิดในอดีต ที่ยังดำเนินต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
Anne has been painting her room since yesterday.
แอนทาสีห้องของเธอเองมาตั้งแต่เมื่อวาน
(ทาสีห้องตั้งแต่เมื่อวาน จนตอนนี้ก็ยังทาอยู่)
We have been staying home for too long.
พวกเราอยู่บ้านมานานเกินไปแล้ว
(อยู่บ้านมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ จนตอนนี้ก็ยังอยู่)
2. กล่าวถึงสิ่งที่เพิ่งจบ แต่มีผลหรือมีความสำคัญต่อปัจจุบัน
He hasn’t been listening, so now he doesn’t understand.
เขาไม่ได้ฟัง ตอนนี้เขาเลยไม่เข้าใจ
(ตอนนั้นไม่ได้ฟัง เลยส่งผลให้ตอนนี้ไม่เข้าใจ)
I am tired because I have been running.
ฉันเหนื่อย เพราะเมื่อกี้ฉันวิ่ง
(วิ่งเสร็จไปแล้ว ส่งผลให้ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย)
เราจะไม่ใช้ continuous tense กับ verb บางคำ
Verb บางคำที่เกี่ยวกับสภาวะหรือกระบวนการในใจ (เช่น know, like, understand) โดยทั่วไปแล้วเราจะไม่ใช้รูป -ing
เมื่อใช้ verb เหล่านี้ เราจะใช้ tense อื่นแทน อย่างกรณีของ present perfect continuous tense เราก็จะใช้ present perfect tense ตัวอย่างเช่น
I have known her for years.
ฉันรู้จักเธอมาหลายปีแล้ว
(เราจะไม่ใช้ I have been knowing her for years.)
Present perfect และ present perfect continuous ต่างกันอย่างไร
หลายคนมักจะสับสน เวลาเลือกใช้ระหว่าง present perfect tense และ present perfect continuous tense เพราะทั้ง 2 tense มีการใช้ที่ทับซ้อนใกล้เคียงกัน ซึ่งหลักๆ แล้ว จะสรุปความต่างได้ดังนี้
1. เรามักใช้ present perfect continuous tense เมื่อพูดถึงการกระทำที่ยังดำเนินอยู่
เรามักใช้ present perfect continuous tense เมื่อพูดถึงการกระทำที่ยังดำเนินอยู่ และจะใช้ present perfect tense เมื่อพูดถึงการกระทำที่เสร็จสิ้นไปแล้ว
My son has read this book.
ลูกชายของฉันอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว
(เคยอ่าน อ่านจบแล้ว)
My son has been reading this book.
ลูกชายของฉันอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่
(อ่านมาซักพักแล้ว ยังอ่านไม่จบ กำลังอ่านอยู่)
2. เรามักใช้ present perfect continuous tense กับสิ่งที่เกิดซ้ำหลายครั้ง
เมื่อไม่ได้ระบุว่าเกิดขึ้นกี่ครั้ง เรามักใช้ present perfect continuous tense เพื่อสื่อว่าสิ่งใดเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งถ้าใช้ present perfect tense จะให้ความหมายว่าเกิดขึ้นครั้งเดียว
Bella has called you.
เบลล่าได้โทรหาคุณ (ครั้งเดียว)
Bella has been calling you.
เบลล่าได้โทรหาคุณ (หลายครั้ง)
แต่ถ้าระบุว่าเกิดขึ้นกี่ครั้ง เราจะต้องใช้ present perfect tense
Bella has called you twice.
เบลล่าได้โทรหาคุณ 2 ครั้ง
3. เรามักใช้ present perfect continuous tense กับสิ่งชั่วคราว
เมื่อพูดถึงสิ่งชั่วคราว เรามักจะใช้ present perfect continuous tense มากกว่า
I have been studying hard recently.
ฉันเรียนหนักในช่วงที่ผ่านมา
(ปกติเรียนไม่หนัก เรียนหนักแค่ชั่วคราวเท่านั้น)
4. เราจะไม่ใช้ present perfect continuous tense กับ verb ที่เกี่ยวข้องกับสภาวะหรือกระบวนการในใจ
ดังที่ได้กล่าวไป ถ้าเป็น verb ที่เกี่ยวกับสภาวะหรือกระบวนการในใจ (เช่น know, like, understand) โดยทั่วไปแล้วเราจะไม่ใช้รูป -ing ซึ่งก็คือจะต้องใช้ present perfect tense แทน
We have liked each other for years.
พวกเราชอบกันมาหลายปีแล้ว
(เราจะไม่ใช้ We have been liking each other for years.)
5. บางครั้ง ทั้ง 2 tense จะให้ความหมายแทบไม่ต่างกัน สามารถใช้แทนกันได้
เช่น เมื่อพูดถึงข้อมูลประวัติ หรือข้อมูลสถานการณ์ทั่วไป อย่างการบอกว่าอยู่ไหน ทำงานไหน เรียนไหน โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ for หรือ since เพื่อบอกช่วงเวลาร่วมด้วย
I have lived here for 10 years.
ฉันอยู่ที่นี่มา 10 ปีแล้ว
I have been living here for 10 years.
ฉันอยู่ที่นี่มา 10 ปีแล้ว
สรุป present perfect continuous tense
- Present perfect continuous tense คือรูปกริยาที่ใช้กับสิ่งที่เกิดในอดีต และยังดำเนินต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน โดยจะใช้โครงสร้าง “has/have + been + กริยา -ing”
- เราจะใช้ has กับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 (เช่น he, she, it, girl, bird, chair) และจะใช้ have กับ I, you และประธานพหูพจน์ (เช่น we, they, girls, birds, chairs)
- เราจะใช้ present perfect continuous tense เมื่อ
- กล่าวถึงสิ่งที่เกิดในอดีต ที่ยังดำเนินต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
- กล่าวถึงสิ่งที่เพิ่งจบ แต่มีผลหรือมีความสำคัญต่อปัจจุบัน
- โดยทั่วไป เราจะไม่ใช้ present perfect continuous tense กับ verb ที่เกี่ยวข้องกับสภาวะ หรือกระบวนการในใจ แต่จะใช้ present perfect tense แทน เช่น I have known her for years.
- Present perfect tense และ present perfect continuous tense จะมีการใช้ที่ใกล้เคียงกัน บางกรณีก็สามารถใช้แทนกันได้ โดยที่ความหมายไม่ต่าง
จบแล้วนะครับกับ present perfect continuous tense ทีนี้เพื่อนๆ ก็คงจะเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ
อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time