Personal pronoun คืออะไร มีการใช้อย่างไร

Pronoun (คำสรรพนาม) พื้นฐานที่ควรรู้เป็นอย่างแรกก็คือ personal pronoun เพราะเป็นสิ่งที่ถูกใช้บ่อย และเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ pronoun และแกรมม่าเรื่องอื่นๆ

ในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับ personal pronoun มาให้ทุกคนได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Personal pronoun คืออะไร

Personal pronoun คือคำสรรพนามที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม โดยอาจทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคก็ได้

การใช้ personal pronoun

ใช้ pronoun แทนคำนาม เมื่อรู้ว่ากล่าวถึงสิ่งไหน

ในภาษาอังกฤษ เราจะไม่ใช้คำนามซ้ำๆ แต่จะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน เมื่อผู้พูดและผู้ฟังรู้ว่ากำลังกล่าวถึงสิ่งไหน อย่างเช่น

John is a mathematician. He is very good with numbers.
จอห์นเป็นนักคณิตศาสตร์ เขาเก่งเรื่องตัวเลขมาก
(เราจะไม่ใช้ John is a mathematician. John is very good with numbers.)

จากตัวอย่าง เราจะไม่ใช้ John ซ้ำในประโยคที่ 2 แต่จะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน ซึ่งในที่นี้ก็คือ he เพราะทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้ตรงกันแล้วว่ากำลังพูดถึงจอห์น

รูปประธานและรูปกรรม

Personal pronoun รูปที่ทำหน้าที่เป็นประธาน (subject pronoun) ได้แก่ I, you, he, she, it, we, they

Personal pronoun รูปที่ทำหน้าที่เป็นกรรม (object pronoun) ได้แก่ me, you, him, her, it, us, them

ในการใช้ personal pronoun เราไม่สามารถใช้รูปประธานและรูปกรรมสลับกันได้ ต้องใช้ให้ตรงกับหน้าที่ของมันเท่านั้น ตัวอย่างเช่น

I called him yesterday.
ฉันโทรหาเขาเมื่อวาน
(“ฉัน” ในประโยคเป็นประธาน เราจึงใช้ I ส่วน “เขา” นั้นเป็นกรรม เราจึงใช้ him เราไม่สามารถใช้ me แทน I หรือใช้ he แทน him ในประโยคนี้ได้)

He called me yesterday.
เขาโทรหาฉันเมื่อวาน
(“เขา” ในประโยคเป็นประธาน เราจึงใช้ he ส่วน “ฉัน” นั้นเป็นกรรม เราจึงใช้ me เราไม่สามารถใช้ him แทน he หรือใช้ I แทน me ในประโยคนี้ได้)

ทั้งนี้ คำว่า you และ it จะมีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน เราจึงสามารถใช้เหมือนกันได้เลย ไม่ว่ามันจะทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค

I like you. You are my type.
ฉันชอบคุณนะ คุณตรงสเปคฉันเลย
(ไม่ว่าจะเป็นประธานหรือกรรม เราก็ใช้ you เหมือนกัน)

It is cute. I like it.
มันน่ารักดี ฉันชอบ
(ไม่ว่าจะเป็นประธานหรือกรรม เราก็ใช้ it เหมือนกัน)

คำกริยารูปเอกพจน์

ในประโยคที่เป็น present simple tense (ประโยคที่ใช้คำกริยาช่อง 1) เมื่อประธานในประโยคเป็น personal pronoun บุรุษที่ 3 เอกพจน์ ซึ่งก็คือ he, she, it เราจะต้องใช้คำกริยารูปเอกพจน์ (เช่น is, does, has, คำกริยาที่เติม s/es)

She lives in Chiang Mai.
เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่

He is a good person.
เขาเป็นคนดี

แต่ถ้าเป็น personal pronoun ตัวอื่นที่ไม่ใช่ he, she, it เราจะใช้คำกริยารูปพหูพจน์ (are, do, have, คำกริยารูปปกติที่ไม่เติม s/es)

We live in Chiang Mai.
พวกเราอาศัยอยู่ในเชียงใหม่

You are a good person.
คุณเป็นคนดี

เว้นแต่กรณีที่ประธานเป็น I การใช้ verb to be (is, am, are) เราจะต้องใช้ am

I am a good person.
ฉันเป็นคนดี

ตัวอย่าง personal pronoun ในประโยค

ใช้ I เป็นประธาน และใช้ me เป็นกรรมแทนตัวผู้พูด

I want to be an engineer.
ฉันอยากเป็นวิศวกร

My mom wants me to be an engineer.
แม่อยากให้ฉันเป็นวิศวกร

ใช้ you เป็นประธานและกรรม แทนตัวคู่สนทนา

You should help him.
คุณควรช่วยเขานะ

I can help you.
ฉันช่วยคุณได้นะ

ใช้ he เป็นประธาน และใช้ him เป็นกรรมแทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศชาย

He bought his kid a new toy.
เขาซื้อของเล่นใหม่ให้ลูก

His wife gave him a gift.
ภรรยาเขาให้ของขวัญแก่เขา

ใช้ she เป็นประธาน และใช้ her เป็นกรรมแทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิง

She went to Japan with Joe.
เธอไปญี่ปุ่นกับโจ

Joe went to Japan with her.
โจไปญี่ปุ่นกับเธอ

ใช้ it เป็นประธานและกรรม แทนสัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม

It was named Chewie.
มันถูกตั้งชื่อว่าชิววี่

I named it Chewie.
ฉันตั้งชื่อให้มันว่าชิววี่

ใช้ we เป็นประธาน และใช้ us เป็นกรรมแทนกลุ่มของผู้พูด

We will miss you.
พวกเราจะคิดถึงคุณ

You will miss us.
คุณจะคิดถึงพวกเรา

ใช้ they เป็นประธาน และใช้ them เป็นกรรมแทนกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ กลุ่มสิ่งของ หรือกลุ่มของสิ่งที่เป็นนามธรรม

They should follow the rules.
พวกเขาควรทำตามกฏ

We want them to follow the rules.
พวกเราอยากให้พวกเขาทำตามกฏ

จบแล้วนะครับกับ personal pronoun ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมทบทวนและฝึกใช้บ่อยๆด้วยนะ

---

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time