ข้อสอบ TOEIC (โทอิค) มีทั้งหมด 200 ข้อ แต่คิดเป็นคะแนนออกมาได้ 10-990 คะแนน นั่นก็หมายความว่า การที่เราจะรู้คะแนน TOEIC ได้ เราจะต้องนำจำนวนข้อที่ทำถูก มาผ่านการคิดคำนวณเสียก่อน
ใครที่อยากรู้ว่าถ้าเราทำถูกกี่ข้อ แล้วจะได้คะแนน TOEIC เท่าไร ก็ตามมาดูกับชิววี่ในบทความนี้ได้เลย
คำนวณคะแนน TOEIC อัตโนมัติ
ใครที่อยากแปลงคะแนนดิบ (จำนวนข้อที่ทำถูก) ให้เป็นคะแนน TOEIC โดยที่ไม่ต้องคิดหรือดูตารางเอง ก็สามารถใส่คะแนนดิบลงไปได้เลย เครื่องคิดเลขจะทำการคิดคะแนนให้โดยอัตโนมัติ
วิธีการคิดคะแนน TOEIC
สำหรับใครที่อยากรู้วิธีการคิดคะแนน TOEIC ก็มาดูกันในส่วนนี้ได้เลย
การคิดคะแนน TOEIC มีหลักการดังนี้
- ข้อสอบ TOEIC มีทั้งหมด 200 ข้อ มีช่วงคะแนน 10-990 คะแนน
- พาร์ทการฟังมี 100 ข้อ มีช่วงคะแนน 5-495 คะแนน
- พาร์ทการอ่านมี 100 ข้อ มีช่วงคะแนน 5-495 คะแนน
- คะแนนรวม TOEIC (10-990 คะแนน) = คะแนนพาร์ทการฟัง (5-495 คะแนน) + คะแนนพาร์ทการอ่าน (5-495 คะแนน)
- พาร์ทการฟังและการอ่าน แม้จะมีช่วงคะแนนเหมือนกัน แต่มีวิธีคิดต่างกัน ในภาพรวมแล้ว พาร์ทการฟังจะหยวนให้มากกว่าพาร์ทการอ่าน (พาร์ทการฟัง แม้จะทำผิดบางข้อ ก็ยังมีสิทธิ์ได้คะแนนเต็มอยู่ แต่พาร์ทการอ่านต้องห้ามผิดเลย ถึงจะได้คะแนนเต็ม)
- การคิดคะแนน TOEIC ไม่ได้ใช้สมการคำนวณ (ไม่สามารถบอกได้ว่าข้อละกี่คะแนน) แต่จะใช้ตารางเทียบคะแนนแทน (เทียบว่าถ้าเราทำถูกกี่ข้อ จะได้คะแนนเท่าไร)
ตารางเทียบคะแนน TOEIC
การคิดคะแนน TOEIC เราจะใช้ตารางเทียบคะแนน โดยด้านซ้ายสุดจะเป็นคะแนนดิบ (จำนวนข้อที่ทำถูก) และถัดมาจะเป็นคะแนนพาร์ทการฟัง (listening) และพาร์ทการอ่าน (reading) แยกกัน
การเทียบคะแนน เราจะต้องเทียบแยกกันระหว่างพาร์ทการฟังและการอ่าน เพราะใช้เกณฑ์ต่างกัน แล้วค่อยนำคะแนนมาบวกกันตอนคิดคะแนนรวม
ตัวอย่างการเทียบคะแนน TOEIC
สมมติว่าเราทำข้อสอบพาร์ทการฟังถูก 70 ข้อ และทำข้อสอบพาร์ทการอ่านถูก 90 ข้อ
- คะแนนดิบพาร์ทการฟัง 70 คะแนน เทียบตารางแล้วได้ 355 คะแนน
- คะแนนดิบพาร์ทการอ่าน 90 คะแนน เทียบตารางแล้วได้ 435 คะแนน
- คะแนนรวม TOEIC = 355 + 435 = 790 คะแนน
จากตัวอย่าง เราจะได้คะแนน TOEIC พาร์ทการฟัง 355 คะแนน พาร์ทการอ่าน 435 คะแนน และได้คะแนนรวม 790 คะแนน
ตารางเทียบคะแนน TOEIC
คะแนนดิบ (เต็ม 100) | คะแนน Listening (เต็ม 495) | คะแนน Reading (เต็ม 495) |
---|---|---|
1-17 | 5 | 5 |
18 | 10 | 5 |
19 | 15 | 5 |
20 | 20 | 5 |
21 | 25 | 5 |
22 | 30 | 10 |
23 | 35 | 15 |
24 | 40 | 20 |
25 | 45 | 25 |
26 | 50 | 30 |
27 | 55 | 35 |
28 | 60 | 40 |
29 | 70 | 45 |
30 | 80 | 55 |
31 | 85 | 60 |
32 | 90 | 65 |
33 | 95 | 70 |
34 | 100 | 75 |
35 | 105 | 80 |
36 | 115 | 85 |
37 | 125 | 90 |
38 | 135 | 95 |
39 | 140 | 105 |
40 | 150 | 115 |
41 | 160 | 120 |
42 | 170 | 125 |
43 | 175 | 130 |
44 | 180 | 135 |
45 | 190 | 140 |
46 | 200 | 145 |
47 | 205 | 155 |
48 | 215 | 160 |
49 | 220 | 170 |
50 | 225 | 175 |
51 | 230 | 185 |
52 | 235 | 195 |
53 | 245 | 205 |
54 | 255 | 210 |
55 | 260 | 215 |
56 | 265 | 220 |
57 | 275 | 230 |
58 | 285 | 240 |
59 | 290 | 245 |
60 | 295 | 250 |
61 | 300 | 255 |
62 | 310 | 260 |
63 | 320 | 270 |
64 | 325 | 275 |
65 | 330 | 280 |
66 | 335 | 285 |
67 | 340 | 290 |
68 | 345 | 295 |
69 | 350 | 295 |
70 | 355 | 300 |
71 | 360 | 310 |
72 | 365 | 315 |
73 | 370 | 320 |
74 | 375 | 325 |
75 | 385 | 330 |
76 | 395 | 335 |
77 | 400 | 340 |
78 | 405 | 345 |
79 | 415 | 355 |
80 | 420 | 360 |
81 | 425 | 370 |
82 | 430 | 375 |
83 | 435 | 385 |
84 | 440 | 390 |
85 | 445 | 395 |
86 | 455 | 405 |
87 | 460 | 415 |
88 | 465 | 420 |
89 | 475 | 425 |
90 | 480 | 435 |
91 | 485 | 440 |
92 | 490 | 450 |
93 | 495 | 455 |
94 | 495 | 460 |
95 | 495 | 470 |
96 | 495 | 475 |
97 | 495 | 485 |
98 | 495 | 485 |
99 | 495 | 490 |
100 | 495 | 495 |
*ตารางเทียบคะแนน TOEIC จะถูกทำขึ้นใหม่ทุกการสอบโดยใช้วิธีทางสถิติ การสอบแต่ละครั้งจึงใช้ตารางเทียบต่างกัน ตารางนี้เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ได้แม่นยำ 100% สำหรับข้อสอบทุกชุด
เกณฑ์คะแนน TOEIC
คะแนน TOEIC เมื่อเทียบกับเกณฑ์ CEFR แล้ว จะมีรายละเอียดดังนี้
(CEFR คือเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ใช้ประเมินความสามารถในด้านภาษา ซึ่งแบ่งได้เป็น 6 ระดับ เรียงจากต่ำไปสูงคือ A1, A2, B1, B2, C1, C2)
คะแนน TOEIC | ระดับ CEFR | ระดับความชำนาญ |
---|---|---|
945 | C1 | ระดับสูง |
785 | B2 | ระดับกลางค่อนสูง |
550 | B1 | ระดับกลาง |
225 | A2 | ระดับพื้นฐาน |
120 | A1 | ระดับเริ่มต้น |
สำหรับการสมัครงาน ถ้าจะให้ดี เราควรได้คะแนน TOEIC 550 คะแนนขึ้นไป เพราะเป็นคะแนนขั้นต่ำที่หลายบริษัทใช้ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว ยิ่งเราได้คะแนนสูง เราก็จะยิ่งได้เปรียบผู้สมัครงานคนอื่นๆ
ทั้งนี้ แต่ละตำแหน่งแต่ละบริษัทก็จะมีข้อกำหนดคะแนน TOEIC ที่ต่างกัน การสมัครงานเราจึงควรดูรายละเอียดส่วนนี้ให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้รู้เป้าหมาย ว่าจะต้องทำคะแนน TOEIC ให้ได้เท่าไร
จบแล้วนะครับกับรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคะแนน TOEIC ทีนี้เพื่อนๆ ก็คงจะรู้วิธีคิดและหลักเกณฑ์คะแนนกันแล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะครับ
สำหรับใครที่จะสอบ TOEIC ชิววี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้สอบได้คะแนนดีๆ นะครับ สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time