• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar
  • Skip to footer
Meowdemy Logo

Meowdemy

เรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบชิวๆกับชิววี่

  • หน้าแรก
  • บทความ
  • เกี่ยวกับเรา

สรุปการใช้ Question Tag ฉบับเข้าใจง่าย

อัพเดท 12/04/2022 | โพสต์ 28/05/2020 | by ชิววี่

สรุปการใช้ question tag ฉบับเข้าใจง่าย

Question tag ในภาษาอังกฤษก็คือวลีอย่างเช่น “is he?” และ “do they?” ที่เอาไว้ใช้ลงท้ายประโยค เพื่อเป็นการถามให้อีกฝ่ายตอบว่าใช่หรือไม่ใช่

แม้ว่า question tag จะเป็นสิ่งที่ถูกใช้บ่อย และดูเหมือนจะไม่ซับซ้อนอะไร แต่ question tag ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยหลายๆอย่างที่เราควรรู้ เพื่อที่จะสามารถใช้ question tag ได้อย่างถูกต้อง

ในบทความนี้ ชิววี่ได้สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ question tag ทั้งการใช้คอมม่า การเลือกใช้คำกริยาและคำสรรพนามใน question tag การเลือกใช้รูปบอกเล่าและรูปปฏิเสธ และการตอบคำถามที่ใช้ question tag เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Question tag คืออะไร

Question tag คือวลีที่ใช้ต่อท้ายประโยค เพื่อเปลี่ยนประโยคนั้นให้เป็นคำถาม ถ้าเทียบกับคำไทยก็จะเหมือนกับคำว่า “ใช่มั้ย” หรือ “ไม่ใช่หรอ” อย่างเช่น

He is a teacher, is he?
เขาเป็นครูใช่มั้ย

He is a teacher, isn’t he?
เขาเป็นครูไม่ใช่หรอ

ตัวอย่าง question tag คำอื่นในภาษาอังกฤษก็อย่างเช่น

  • are they? และ aren’t they?
  • do you? และ don’t you?
  • will she? และ won’t she?
  • should I? และ shouldn’t I?
  • can he? และ can’t he?

สังเกตว่า question tag จะเป็นการนำคำกริยาตระกูล be/do/have หรือคำกริยาช่วย (เช่น will, should, can) มาใช้คู่กับคำสรรพนาม (I, you, he, she, it, we, they) โดยจะมีทั้งรูปบอกเล่าและรูปปฏิเสธ

การใช้ question tag

การใช้คอมม่า

การใช้ question tag เราจะต้องใช้คอมม่า (,) คั่นระหว่างประโยคหลักกับ question tag เสมอ

เราจะใช้ He is a teacher, is he?
ไม่ใช่ He is a teacher is he?

การเลือกใช้คำใน question tag

เราจะเลือกใช้คำใน question tag ตามประโยคหลัก โดยมีหลักการดังนี้

1. ใช้สรรพนามใน question tag ตามประธานในประโยคหลัก

Tim is your best friend, isn’t he?
ทิมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณไม่ใช่หรอ

She called you last week, didn’t she?
เธอโทรหาคุณเมื่ออาทิตย์ก่อนไม่ใช่หรอ

2. ถ้าประโยคหลักใช้ verb to be (is, am, are, was, were) ให้ใช้ verb to be นั้นใน question tag

You are hungry, aren’t you?
คุณหิวไม่ใช่หรอ

He was at the party, wasn’t he?
เขาอยู่ที่งานปาร์ตี้ด้วยไม่ใช่หรอ

ยกเว้นว่าถ้า verb to be ที่ใช้เป็น am การใช้ question tag รูปปฏิเสธ เราจะนิยมใช้ aren’t I? หรือ am I not? แต่จะไม่ใช้ am not I?

I am your friend, aren’t I?
ฉันเป็นเพื่อนคุณไม่ใช่หรอ

3. ถ้าประโยคหลักมีคำกริยาช่วย (เช่น can, could, will, would, should) ให้ใช้คำกริยาช่วยนั้นใน question tag

You can swim, can’t you?
คุณว่ายน้ำได้ไม่ใช่หรอ

She will call you, won’t she?
เธอจะโทรหาคุณไม่ใช่หรอ

รวมถึงคำกริยาช่วยใน continuous tense (is, am, are, was, were) และ perfect tense (have, has, had) ด้วย

You are doing your homework, aren’t you?
คุณกำลังทำการบ้านของคุณอยู่ไม่ใช่หรอ

Your dad have been there before, haven’t he?
พ่อของคุณเคยไปที่นั่นมาก่อนไม่ใช่หรอ

4. ถ้าประโยคหลักใช้คำกริยาทั่วไปที่ไม่ใช่ verb to be และไม่มีคำกริยาช่วย ให้ใช้ do, does, did ใน question tag

You miss him, do you?
คุณคิดถึงเขาใช่มั้ย

She went to the beach with you, didn’t she?
เธอไปทะเลกับคุณไม่ใช่หรอ

5. ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่งหรือประโยคขอร้อง เรามักจะใช้ will ใน question tag

Stop making noise, will you?
หยุดส่งเสียงได้มั้ย

Please pay attention, will you?
กรุณาให้ความสนใจหน่อยได้มั้ย

6. ถ้าประโยคหลักใช้ let’s เรามักจะใช้ shall ใน question tag

Let’s go to the canteen, shall we?
ไปโรงอาหารกันมั้ย

การเลือกใช้ question tag รูปบอกเล่า/รูปปฏิเสธ

การเลือกใช้ question tag รูปบอกเล่า (เช่น is he?) หรือรูปปฏิเสธ (เช่น isn’t he?) เราจะต้องพิจารณาใจความที่เราต้องการจะสื่อ ซึ่งแบ่งได้หลักๆ 2 แบบ คือ

1. ไม่แน่ใจ

ถ้าเราคิดว่าสิ่งใดเป็นจริง แต่ไม่แน่ใจ แล้วต้องการถามเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยยืนยัน เราจะใช้ question tag รูปตรงข้ามกับประโยคหลัก ซึ่งก็คือ

ถ้าประโยคหลักเป็นรูปบอกเล่า เราจะใช้ question tag รูปปฏิเสธ
ถ้าประโยคหลักเป็นรูปปฏิเสธ เราจะใช้ question tag รูปบอกเล่า

He is a teacher, isn’t he?
เขาเป็นครูไม่ใช่หรอ
(ผู้ถามคิดว่าเขาเป็นครู แต่ไม่แน่ใจ เลยถามเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยยืนยัน)

You didn’t eat my cake, did you?
คุณไม่ได้กินเค้กของฉันใช่มั้ย
(ผู้ถามคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้กินเค้กของผู้ถาม แต่ไม่แน่ใจ เลยถามเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยยืนยัน)

She can speak English, can’t she?
เธอพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ใช่หรอ
(ผู้ถามคิดว่าเธอพูดอังกฤษได้ แต่ไม่แน่ใจ เลยถามเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยยืนยัน)

สำหรับกรณีที่เราถามเพราะไม่แน่ใจ เวลาพูดออกเสียง เราไม่จำเป็นต้องขึ้นเสียงสูงท้ายประโยค เว้นแต่กรณีที่เราไม่มั่นใจมากจริงๆ

2. ไม่รู้

ถ้าเราถามเพราะไม่รู้หรือไม่แน่ใจเลยจริงๆ เราจะใช้ทั้ง question tag และประโยคหลักในรูปบอกเล่า

He is a teacher, is he?
เขาเป็นครูใช่มั้ย
(ผู้ถามไม่รู้ว่าเขาเป็นครูหรือไม่)

You met John yesterday, did you?
คุณได้พบจอห์นเมื่อวานใช่มั้ย
(ผู้ถามไม่รู้ว่าเขาได้พบจอห์นเมื่อวานหรือไม่)

This is Siam station, is it?
นี่คือสถานีสยามใช่มั้ย
(ผู้ถามไม่รู้ว่าที่นี่คือสถานีสยามหรือไม่)

สำหรับกรณีที่เราถามเพราะไม่รู้ เวลาพูดออกเสียง เราจะขึ้นเสียงสูงท้ายประโยค

การตอบคำถามที่ใช้ question tag

ในการตอบคำถามที่ใช้ question tag เรามักจะตอบด้วย yes หรือ no เช่น ถ้ามีคนถามเราว่า

She is a singer, isn’t she?
เธอเป็นนักร้องใช่มั้ย

ถ้าใช่ เราอาจตอบว่า

Yes, she is.
ใช่ เธอเป็นนักร้อง

ถ้าไม่ใช่ เราอาจตอบว่า

No, she isn’t.
ไม่ เธอไม่ใช่นักร้อง

เป็นยังไงบ้างครับกับสรุปการใช้ question tag ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ


อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next timeไอคอนหน้าแมวยิ้ม

Primary Sidebar

Footer

ชิววี่พูดว่า มาเรียนภาษาอังกฤษกันเถอะ
Meowdemy
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
ความเป็นส่วนตัว
ข้อตกลงการใช้งาน
ติดตามเรา
meowdemy facebook link meowdemy facebook link
Copyright © 2025 Meowdemy.com